การบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม
นโยบายในการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม
นโยบายคุณภาพ ความมั่นคง ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม
นโยบายด้านบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน
ดาวน์โหลดนโยบายด้านบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน
การบริหารจัดการพลังงาน
สำหรับผลการดำเนินงานตามเป้าหมายในปี 2566 บริษัทมีปริมาณไฟฟ้าเฉลี่ยรายบุคคล (กิโลวัตต์ชั่วโมง/คน) ภายในสำนักงานใหญ่เพิ่มขึ้นจากปีฐาน (2565) ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 83 เนื่องจากมีการผ่อนปรนมาตรการโควิด-19 จึงมีการกลับเข้ามาทำงานของพนักงานในสำนักงานใหญ่เพิ่มมากขึ้น
ตัวชี้วัด | 2563 | 2564 | 2565 | 2566 |
ปริมาณการใช้ไฟฟ้า (kWh) | 210,414 | 166,473 | 272,179 | 286,856 |
ปริมาณการใช้ไฟฟ้าเฉลี่ย (kWh/คน) | 347 | 157 | 336 | 617 |
ค่าไฟฟ้า (ล้านบาท) | 1.26 | 1.00 | 1.63 | 1.90 |
ค่าไฟฟ้าเฉลี่ย (บาท/คน) | 2,075 | 945 | 2,010 | 4,089 |
- โครงการควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง
โครงการควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง คือ การควบคุมการใช้ปริมาณน้ำมัน โดยมีการดำเนินการเก็บข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามค่าปรับส่วนเกิน และรายงานผลการใช้น้ำมันแก่ผู้บริหารทุกเดือน
- โครงการการจัดประชุมสีเขียว (Green Meetings) สํานักงานใหญ่
พีทีจี ได้มีการจัดโครงการการจัดประชุมสีเขียว โดยมุ่งเน้นการเลือกสถานที่ประชุมให้เหมาะสมกับจำนวนผู้เข้าประชุม ลดการใช้อุปกรณ์ที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง ห้ามรับประทานอาหารภายในห้องประชุม เพื่อลดการเกิดขยะ และปิดไฟส่องสว่าง รวมถึงอุปกรณ์ไฟฟ้า ภายในห้องประชุมทุกครั้ง หลังเลิกใช้งาน เช่น ทีวี โปรเจคเตอร์ เป็นต้น
การบริหารจัดการน้ำ
มาตรการและแนวทางประหยัดน้ำ
- กิจกรรมลดค่าความสกปรกของน้ำทิ้งจากสถานีบริการ
- กำหนดให้สถานีบริการทุกสาขา ต้องมีการทำความสะอาด บ่อดักไขมัน อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
- การส่งเสริมการจัดการน้ำเสียตั้งแต่ต้นทาง โดยการผลักดันให้มีการติดตั้งระบบบัดบำน้ำเสียอื่น ๆ หรือถังดักไขมัน ภายในพื้นที่ของผู้เช่า เช่น ร้านกาแฟ, ร้านมินิมาร์ท, ร้านขายข้าวแกง เป็นต้น และเน้นย้ำไม่ทิ้งขยะมูลฝอย เศษอาหาร และสารเคมีลงสู่รางระบายน้ำโดยตรง - กิจกรรมลดการใช้น้ำที่สถานีบริการ
ผู้จัดการสาขาจดมิเตอร์น้ำรายวันในแต่ละช่วงเวลา เพื่อตรวจสอบความผิดปกติของปริมาณการใช้น้ำ
- ผู้จัดการสาขาหรือผู้จัดการเขตสำรวจจุดรั่วซึมตามอุปกรณ์ต่างๆ พร้อมแจ้งการเข้าซ่อมแซม
- กำหนดการใช้น้ำของแม่บ้าน ไม่เปิดน้ำทิ้งไว้ตอนล้างห้องน้ำ โดยให้ใช้วาล์วเปิด-ปิดที่ปลายสายยางแทน
- ปรับแรงดันของวาล์วน้ำในระดับแรงที่ไม่กระทบการใช้น้ำและการให้บริการ
- โครงการ SAFETY ACTIVITY การดูแลระบบบำบัดน้ำเสีย ภายในสถานีบริการ โดยบ่อดักไข มีความสำคัญในการบำบัดน้ำเสียที่เกิดขึ้นทั้งหมดภายในสถานีบริการก่อนที่จะปล่อยออกสู่สาธารณะ ผู้จัดการสถานีบริการจะต้องตรวจสอบและทำความสะอาดบ่อดักไขมันทุกสัปดาห์ เพื่อป้องกันข้อร้องเรียนจากชุมชนโดยรอบสถานีบริการและหน่วยงานราชการ ดังนั้นจึงมีการจัดทำวิธีในการทำความสะอาดบ่อดักไขมัน ซึ่งมีการจัดทำเป็นคลิป VDO โดยผู้เข้าชมสามารถ scan QR Code เพื่อศึกษาวิธีการทำความสะอาดบ่อดักไขมัน
- การรณรงค์สื่อสารภายในพื้นที่ เพื่อขอความร่วมมือผู้ใช้งาน ปิดน้ำให้สนิททุกครั้งหลังใช้งาน รวมถึงกรณีพบความผิดปกติ เช่น วาล์วปิดไม่สนิท, ท่อน้ำรั่วซึม เป็นต้น ต้องแจ้งผู้รับผิดชอบ เพื่อทำการแก้ไขทันที
การบริหารจัดการขยะ
พีทีจี มีการสื่อสาร รณรงค์ ส่งเสริม และสร้างความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมให้กับพนักงานภายในองค์กรโดยยึดหลัก 3R คือ Reduce Reuse Recycle เพื่อลดปริมาณการเกิดขยะภายในองค์กร และนำขยะที่สามารถรีไซเคิลได้เข้าสู่กระบวนการนำกลับมาใช้ใหม่ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามหลักการ Circular Economy (ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน) โดยมีปริมาณขยะแต่ละประเภทที่เกิดขึ้นในปี 2566 ดังนี้
ประเภทของเสีย | ปริมาณ (ตัน) |
ของเสียไม่อันตรายทั้งหมด | 240.31 |
ของเสียอันตรายทั้งหมด | 61.28 |
รวมของเสียทั้งหมด | 301.59 |
-ปริมาณของเสียไม่อันตรายที่นำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) | 14.65 |
-ปริมาณของเสียอันตรายที่นำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) | 5.78 |
รวมของเสียที่นำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) | 20.43 |
พีทีจี มีการเก็บรวบรวมปริมาณขยะแต่ละประเภท ผ่านการตรวจสอบการคัดแยกขยะโดยแม่บ้าน และเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม และชั่งน้ำหนักขยะแต่ละประเภท โดยตรวจสอบ และยืนยันข้อมูลปริมาณขยะ โดยผู้จัดการหน่วยงาน หรือผู้รับกำจัดขยะ
การบริหารจัดการขยะหรือของเสียแต่ละประเภทของบริษัท
ประเภทขยะ | วีธีการบริหารจัดการขยะ |
ขยะทั่วไป | คัดแยก และส่งกำจัดตามรอบที่เทศบาลหรือสำนักงานท้องถิ่นแต่ละพื้นที่กำหนด |
ขยะอินทรีย์ | คัดแยกขยะเศษอาหาร เพื่อไปทำปุ๋ย และส่วนที่เหลือส่งกำจัดตามรอบที่เทศบาลหรือสำนักงานท้องถิ่นแต่ละพื้นที่กำหนด |
ขยะรีไซเคิล | คัดแยก และขายให้กับผู้รับซื้อเพื่อนำไปรีไซเคิล |
ขยะอันตราย | คัดแยก และติดต่อผู้ได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ขนส่งและกำจัด โดยขึ้นทะเบียนต่อกรมโรงงานอุตสาหกรรมเป็นผู้ดำเนินการ |
พีทีจี มีการสื่อสาร รณรงค์ ส่งเสริม
และสร้างความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมให้กับพนักงานภายในองค์กรโดยยึดหลัก 3R คือ Reduce Reuse Recycle เพื่อลดปริมาณการเกิดขยะภายในองค์กร
และนำขยะที่สามารถ
รีไซเคิลได้เข้าสู่กระบวนการนำกลับมาใช้ใหม่ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามหลักการ Circular
Economy (ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน)
โครงการบริหารจัดการขยะ
- โครงการยางหล่อดอก
พีทีจี โลจิสติกส์ จัดทำโครงการยางหล่อดอก เพื่อใช้สำหรับเปลี่ยนทดแทนการใช้ยางใหม่ ของรถสิบล้อ หัวลาก และกึ่งพวง (หาง) ของบริษัท ซึ่งกำหนดให้มีการเปลี่ยนยางที่ล้อตามเท่านั้น ( ยกเว้นล้อหน้าและล้อขับเคลื่อนต้องใช้ยางใหม่เท่านั้น ) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ยางให้คุ้มค่าได้มากขึ้น, ช่วยลดปริมาณขยะจากยางที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว อีกทั้งยังสามารถช่วยลดปริมาณการสั่งซื้อหรือใช้ยางใหม่ได้ ส่งผลให้สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในองค์กร จากการนำยางเก่ามารีไซเคิลใช้ใหม่ โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2560 ต่อเนื่องจนมาถึงปัจจุบัน ในปี 2566 มีการถอดยางทั้งสิ้น จำนวน 3,272 เส้น แต่ยางที่ผ่านการคัดตามมาตรฐานของโรงหล่อยาง มีเพียง 930 เส้น โดยในปี 2566 บริษัทสามารถลดค่าใช้จ่ายได้ถึง 5,637,100 บาท - โครงการที่ได้รับใบประกาศเกียรติคุณ
โครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก (Low Emission Support Scheme: LESS) จาก
องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- กิจกรรมคัดแยกขวดพลาสติกเพื่อการรีไซเคิล (1 kgCO2eq) การนำขวดพลาสติกไปผลิตเป็นเสื้อ เพื่อมอบให้กับคุณครู และนักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านรักไทย จังหวัดพิษณุโลก
- โครงการคัดแยกขยะรีไซเคิล ภายในอาคารสำนักงาน ประจำปี 2565 (17.208 tCO2eq)
- โครงการแยกขยะโลกสดใส (887 kgCO2eq)
- โครงการยิ่งแยกยิ่งเจริญ (51 kgCO2eq)
โครงการสำคัญอื่น ๆ เกี่ยวกับการจัดการขยะ
- โครงการ Say No Plastic
โครงการอาสาสมัคร ลด ละ เลิก ใช้แก้ว / ขวดพลาสติก โดยเปลี่ยนมาใช้แก้วส่วนตัว โดยจัดกิจกรรมภายในสำนักงานใหญ่
- โครงการ PUNTHAI CARBON THIS WAY
- กิจกรรมรณรงค์การใช้แก้วส่วนตัว ในการซื้อกาแฟที่ร้านกาแฟพันธุ์ไทย เพื่อลดขยะจากแก้วพลาสติก โดยมีการสะสมคะแนนเพื่อแลกเครื่องดื่มพันธุ์ไทย และแก้วส่วนตัว
- กิจกรรมลดคาร์บอนจากเครื่องดื่ม คือ การรณรงค์ให้ผู้บริโภคลดความหวานของเครื่องดื่มจากปกติ โดยการลดปริมาณความหวานสามารถช่วยลดปริมาณการคาร์บอนจากสารให้ความหวานได้ โดยมีการให้ Points กับผู้เข้าร่วมกิจกรรม
- กิจกรรม Drop-off Recycling Bin คือ การประชาสัมพันธ์ รณรงค์ให้ลูกค้าและพนักงานที่ซื้อเครื่องดื่ม นำแก้วมาแยกขยะก่อนทิ้ง โดยมีการสะสมคะแนนเพื่อแลกเครื่องดื่มพันธุ์ไทย และแก้วส่วนตัว
หมายเหตุ : การดำเนินโครงการ PUNTHAI CARBON THIS WAY เป็นโครงการนำร่องโดยดำเนินโครงการภายในพันธุ์ไทยสาขาสำนักงานใหญ่ อาคาร CW Tower และทำโครงการเฉพาะพนักงาน เท่านั้น
- โครงการจุดคัดแยกขยะ เป็นโครงการสร้างโรงคัดแยกขยะในพื้นที่คลังน้ำมัน โดยสร้างเป็นพื้นที่ทิ้งขยะตามแต่ละประเภทขยะ ซึ่งเป็นโครงการเพื่อส่งเสริมและสร้างความตระหนักให้มีการคัดแยกขยะที่คลังน้ำมัน
- โครงการพัฒนาการจัดการขยะที่ต้นทางร่วมกับกรุงเทพมหานคร สสส. สถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยการคัดแยกและการนำไปใช้ประโยชน์ต่อ
พร้อมสร้างฐานข้อมูลกลาง ด้านขยะของสถานีบริการ
เพื่อลดปริมาณขยะที่ต้องถูกนำไปฝังกลบของสถานีบริการ
- โครงการ Perk from Tash
โครงการที่เป็นการรวบรวมขยะรีไซเคิลส่งอาคาร CW เพื่อรับ Point และสามารถนำ Point ไปแลกสิทธิประโยชน์ให้บริษัทได้ เช่น เป็นส่วนลดค่าบริการเครื่องปรับอากาศนอกเวลา เป็นต้น - โครงการ e-Document
โครงการปรับเปลี่ยนแบบฟอร์มกระดาษขอใช้บริการต่างๆ ผ่าน Work Flow โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บรรลุเป้าหมายกระบวนการทางธุรกิจดิจิทัล โดยดำเนินการจากความคิดริเริ่ม 'Paperless Office' เพื่อขับเคลื่อนประสิทธิภาพด้านต้นทุน การลดใช้กระดาษ การดำเนินงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บเอกสารแบบรวบรวมไว้ที่ศูนย์กลาง และการจัดการเอกสารแบบอัตโนมัติ ) โดยปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการพัฒนาโครงการ
การจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
พีทีจีได้กำหนดแนวทางในการจัดซื้อและจัดจ้างสินค้าหรือบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อส่งเสริมให้พนักงานได้ใช้สินค้าและบริการที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่กระบวนการผลิต ซึ่งเป็นการส่งเสริมการลดการใช้ทรัพยากรที่สิ้นเปลืองและลดมลภาวะที่อาจเกิดขึ้นจากการผลิตสินค้าและบริการ นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมให้พนักงานทุกคนมีความตระหนักในการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม โดยมีส่วนร่วมในการเลือกสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ในการเลือกใช้สินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนั้น ผู้จัดซื้อสินค้าจะต้องพิจารณาถึงการรับรองสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น สินค้าที่ได้รับรองฉลากเขียว, ฉลากประหยัดพลังงานเบอร์ 5, ฉลากประสิทธิภาพสูง, ฉลากคาร์บอนฟุตพรินต์ เป็นต้น เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าและบริการที่เลือกซื้อจะไม่ก่อให้เกิดมลภาวะที่ส่งผลทำให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่หากไม่สามารถเลือกสินค้าที่ได้รับการรับรองสินค้าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้ จัดซื้อสินค้าสามารถพิจารณาเลือกสินค้าและบริการจากเกณฑ์ดังต่อไปนี้ โดยเปรียบเทียบสินค้าหรือบริการที่จะทำการเลือกใช้งานใหม่กับสินค้าหรือบริการที่ใช้งานเดิมอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งมีเกณฑ์ดังต่อไปนี้
1.1.1 ใช้วัสดุที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย เช่น วัสดุไม่มีพิษ วัสดุหมุนเวียนทดแทนได้ วัสดุรีไซเคิล และวัสดุที่ใช้พลังงานต่ำในการจัดหา
1.1.2 ใช้วัสดุน้อย เช่น น้ำหนักเบา ขนาดเล็ก มีจำนวนประเภทของวัสดุน้อย
1.1.3 มีเทคโนโลยีการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เช่น ใช้พลังงานสะอาด ลดการเกิดของเสียจากกระบวนการผลิต และลดขั้นตอนของกระบวนการผลิต
1.1.4 มีระบบขนส่งและจัดจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เช่น ลดการใช้หีบห่อบรรจุภัณฑ์ที่ฟุ่มเฟือย ใช้บรรจุภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุที่ใช้ซ้ำหรือหมุนเวียนใช้ใหม่ได้ และเลือกใช้เส้นทางการขนส่งที่ประหยัดพลังงานที่สุด
1.1.5 ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดในช่วงการใช้งาน เช่น ใช้พลังงานต่ำ มีการปล่อยมลพิษต่ำในระหว่างการใช้งาน ลดการใช้วัสดุสิ้นเปลือง และลดการใช้ชิ้นส่วนที่ไม่จำเป็น
1.1.6 มีความคุ้มค่าตลอดชีวิตการใช้งาน เช่น มีความทนทาน สามารถซ่อมแซมและดูแลรักษาง่าย และสามารถปรับปรุงต่อเติมได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย
1.1.7 มีระบบการจัดการหลังหมดอายุการใช้งานที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น มีการออกแบบให้สามารถนำสินค้าหรือชิ้นส่วนกลับมาใช้ซ้ำหรือหมุนเวียนใช้ใหม่ได้ง่าย หรือหากต้องกำจัดทิ้งสามารถนำพลังงานกลับคืนมาใช้ได้
การจัดจ้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในกรณีที่บริษัทฯ มีการจ้างงานจากบุคคลหรือหน่วยงานภายนอกมาดำเนินการแทนภายในบริษัทฯ ควรมีการคัดเลือกบุคคลหรือหน่วยงานที่เหมาะสม กล่าวคือ ต้องมีมาตรฐานการดำเนินงานที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม โดยมีคุณสมบัติดังนี้
1. ได้รับการรับรองมาตรฐานการจัดการสิ่งแวดล้อมระดับประเทศหรือระดับสากล
2. มีความพร้อมของการป้องกันมลพิษต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการทำงาน เช่น มลพิษทางอากาศ มลพิษทางเสียง
3. มีความพร้อมของการป้องกันอันตรายจากการก่อสร้างหรือการปฏิบัติงาน
4. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
5. พนักงานของหน่วยงานได้รับการฝึกอบรมด้านการใช้ทรัพยากร พลังงาน การจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ